เจาะลึกทุกรายละเอียดการเดินทางสู่ลาดักห์

เจาะลึกทุกรายละเอียดการเดินทางสู่ลาดักห์

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้โพสต์บทความเรื่อง “When Your Lowest Point in Life is Still 3,048m Above Sea Level” (“เมื่อจุดต่ำสุดในชีวิตของคุณอยู่ที่ 3,048 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล”) ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางในแถบเทือกเขาหิมาลัยฝั่งประเทศอินเดีย ถ้าคุณยังไม่เคยอ่านบาทความนั้นมาก่อน ผมอยากให้ลองอ่านดูก่อนแล้วค่อยมาต่อที่บทความนี้นะครับ

สำหรับใครที่กำลังจะตามรอยเส้นทางที่เล่ามาหรือสำรวจรัฐนี้ด้วยตนเอง ผมหวังว่า ข้อมูลของผมต่อไปนี้จะเป็นแนวทางที่มีประโยชน์สำหรับการเดินทางสู่ภูมิภาคนี้ของประเทศอินเดีย

This article will take approximately 3 minutes to read. Don't have the time right now? No worries. You can email the ad-free version of the article to yourself and read it later!

Disclaimer: This article may include links to products or services offered by ExpatDen’s partners, which give us commissions when you click on them. Although this may influence how they appear in the text, we only recommend solutions that we would use in your situation. Read more in our Advertising Disclosure.

ค่าใช้จ่ายสำหรับ 7 วัน

เรามาเริ่มกันด้วยเรื่องเงินกันดีกว่า ถ้าจะเดินทางท่องเที่ยวที่ลาดักห์สักหนึ่งอาทิตย์จะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร รายละเอียดด้านล่างเป็นรายการค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ที่ผมใช้ไปทั้งหมดในการเดินทางครั้งนี้ (ดูแผนการเดินทางทั้งหมดได้ที่นี่) ผมเดินทางไปกับแฟนสองคน แต่ว่าค่าใช้จ่ายข้างล่างนี้เป็นรายการต่อคนนะครับ

รายการจำนวนเงิน
ค่าเครื่องบิน฿16,074
ค่าแท็กซี่฿5,909
ค่าโรงแรม฿4,648
ค่าอาหาร฿2,855
ค่าของฝาก฿1,873
ค่าวีซ่า฿1,673
ค่าประกันการเดินทาง฿822
รวมทั้งสิ้น฿33,854

ค่าเที่ยวบินนับตั้งแต่จากกรุงเทพฯ รวมไปถึงค่าห้องของโรงแรมในกรุงเดลฮี(เดลี) ที่อยู่ติดกับสนามบินที่เราไปนอนพักระหว่างรอต่อเครื่อง ราคาตั๋วเที่ยวบินขาเดียวจากกรุงเดลฮีไปเลห์นั้นมีราคา ฿2,753 ส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรงแรมซึ่งบางแห่งจะครอบคลุมถึงอาหารมื้อเช้าหรืออาหารมื้ออื่น ๆ เข้าไปด้วย ค่าแท็กซี่หมายถึงค่าเดินทางท่องเที่ยวสั้น ๆ เป็นระยะเวลา 2 วันไปยังทะเลสาบแพงกองและหุบเขานูบรา รวมถึงค่าเดินทางในละแวกใกล้ ๆเขตเลห์ แบบเช้าเย็นกลับ และค่าเดินแบบสั้นๆในแถวนั้นอีกหลายครั้ง ค่าอาหารมีราคาแตกต่างกันไปตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวน้ำชามละ ฿21 ไปจนถึงมื้ออาหารที่สนามบินราคา ฿418

silver sand nubra
หมู่บ้านนูบรา หนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดในลาดักห์ (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)

การขอวีซ่า

แน่นอนการเดินทางของผมสู่ลาดักห์เริ่มต้นที่ระดับน้ำทะเล เมื่อผมตรวจสอบรายละเอียดการขอวีซ่าเข้าประเทศอินเดีย ผมพิมพ์เอกสารที่ต้องใช้ยื่นขอวีซ่าออกมาเป็นตั้ง และนัดวันที่จะไปสถานทูตอินเดียจนเสร็จเรียบร้อย ผมถึงได้รู้ว่าประเทศนี้มีการออกวีซ่าท่องเที่ยวแบบอิเล็คโทรนิคส์ โดยคิดค่าธรรมเนียมเพียง ฿1,673 และ อีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อมา ผมก็ได้รับการยืนยันผ่านทางอีเมลล์ว่า วีซ่า “eTV” สำหรับเข้าประเทศอินเดียของผมได้รับการอนุมัติแล้ว (ราคาค่าวีซ่าที่ระบุไว้ในตารางนั้นได้รวมถึงค่าธรรมเนียมตัดบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว) ผมขอแนะนำให้สมัครวีซ่าโดยวิธีนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถใช้กระบวนการนี้ได้

สุขภาพ

โรคจากการแพ้ความสูง (altitude sickness) ที่อาจเกิดขึ้นได้ที่ระดับความสูงเกิน 2500 เมตร นับเป็นเรื่องน่ากังวลในลาดักห์ อาการที่พบบ่อยๆของโรคนี้เช่นความอ่อนล้า ปวดศีรษะ และเหนื่อยง่าย ผมเองเคยมีอาการแบบนี้เมื่อครั้งไปปีนเขาในประเทศอูกันดา ผมคิดว่าอาการหลายๆอย่างเหมือนเวลาเราเมาค้าง อย่างไรก็ตาม โรคนี้อาจจะร้ายแรงได้มากกว่านั้นมากและบางครั้งอาจจะถึงแก่ชีวิตได้ทีเดียว

การเดินทางมาถึงโดยเครื่องบิน หมายถึง ช่วงเวลาที่คุณได้หย่อนเท้าลงเหยียบพื้นดิน ซึ่งก็ถือว่า คุณได้อยู่ที่ระดับ 3,500 เมตรแล้ว หลายท่านอาจจะแนะนำให้คุณพักผ่อนก่อนในวันแรก แต่ว่าพวกผมได้กินยาแก้แพ้ระดับความสูง (Diamox) เตรียมมาก่อน ทำให้เรากล้าพอที่จะลดเวลาพักลงจนเหลือแค่สองสามชั่วโมง ก่อนที่จะนั่งแท็กซี่ตระเวนไปเที่ยวรอบ ๆ เมือง สำหรับการเที่ยวข้างนอกตัวเมือง คุณสมควรที่จะใช้เวลาปรับตัวอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อน เพราะว่าเราต้องเดินทางข้ามภูเขา ซึ่งบางแห่งนั้นสูงถึง 5 300เมตร การปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศก่อนเดินทางเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก

การเดินทางของคุณจะยากลำบากมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องเดินทางจากมานาลี่ไปเลห์โดยรถยนต์ นักเดินทางที่ต้องการไปให้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะไปได้ บางทีก็จบลงด้วยการค้างคืนที่ซาร์ชู ( 4, 290 เมตร) แทน เนื่องจากนักเดินทางมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดโรคความกลัวที่สูงโดยฉับพลัน จึงมีภาษาพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า “อ้วกแบบฮิลตัน” ซึ่งก็ไม่เชิงเป็นคำพูดที่พวกพนักงานลอกมาจากหนังสือท่องเที่ยว the Lonely Planet กันหรอกครับ วิธีที่ดีกว่านั้นในการปรับตัวให้เข้ากับระดับความสูงนั้นอยู่ที่จุดพักในตอนต้นของการเดินทางซึ่งสามารถดูที่ได้ที่เว็บไซด์ Devils on Wheels

การแต่งกายและอุปกรณ์

ladakh butterfly
อุณหภูมิที่ลาดักห์เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน อย่าแปลกใจถ้าคุณเจออุณหภูมิสูงแบบฤดูร้อนในไม่กี่ชั่วโมง (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)

ลาดักห์เป็นเมืองลมโกรกที่ตั้งอยู่ค่อนข้างสูง ดังนั้น เราควรตระเตรียมข้าวของใส่ในเป้สะพายหลังให้เหมาะสม นอกจากของจำเป็นตามปกติแล้ว คุณสมควรพกสิ่งของเหล่านี้ไปด้วย :

  • ชุดนอนผ้าหนา : เกสต์เฮาส์และโรงแรมส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะพวกที่คิดราคาน้อยกว่า ฿1,742 ต่อคืน) ไม่มีเครื่องทำความร้อน การรับมือกับอากาศที่หนาวเย็นในวลากลางคืนเบื้องต้น คือ สวมใส่เสื้อผ้าทุกชิ้นที่มี และอาจต้องเพิ่มผ้าห่มอีกสักสองสามผืน
  • เสื้อผ้าหลายชิ้น : สืบเนื่องจากระดับความสูง อุณหภูมิอาจเปลี่ยนไปมา สิ่งที่ผมชอบทำมากที่สุดในการรับมือ คือ การสวมใส่เสื้อผ้าทับเข้าไปอีกสักสองสามตัว ซึ่งสามารถถอดออกได้ง่ายเมื่ออากาศเริ่มร้อนขึ้นหลังจากที่พระอาทิตย์ผ่านพ้นขอบฟ้าขึ้นมาในช่วงสาย ๆ
  • ไฟฉาย : ตามท้องถนนมีแสงไฟน้อยมาก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเขตเมืองหลวงก็ตาม เขตก่อสร้างและท่อระบายน้ำที่เปิดทิ้งไว้อาจทำให้การเดินเที่ยวในยามค่ำคืนค่อนข้างบุกบั่นกว่าที่คุณจะปรารถนา ไฟฉายสามารถช่วยคุณได้อย่างมาก

ยาและเวชภัณฑ์

ผมขอแนะนำให้คุณแวะที่ร้านขายยาเพื่อซื้อยาบางชนิด ก่อนออกเดินทางไปที่นั่น

  • ยาระงับความกลัวความสูง เช่น ยา Acetazolamide (เช่น เดียอาม็อกซ์ Diamox) เพื่อบรรเทาอาการบางอย่างเช่นปวดศีรษะ
  • ยาระงับอาการเมาคลื่น ยาชนิดนี้ช่วยได้อย่างมากโดยเฉพาะเวลาที่ต้องเดินทางขึ้น ๆ ลง ๆ ตามเส้นทางคดเคี้ยวที่เชื่อมภูเขาแต่ละลูก หลายๆครั้งคุณจะต้องนั่งรถเป็นระยะเวลา 3 – 7 ชั่วโมงในการเดินทางไปที่ต่างๆ และยิ่งเดินทางขึ้นสูงไปมากเท่าไร เส้นทางก็จะยิ่งเป็นหลุมเป็นบ่อมากขึ้นเท่านั้น
  • ยาแก้อาการคลื่นไส้ ถ้าจะให้ดีก็ควรติดไปด้วย บางครั้งคุณอาจต้องใช้ร่วมกับยาแก้เมาคลื่น ปลอดภัยไว้ก่อนที่จะต้องมานั้งเสียใจภายหลัง
  • ยาโลเปอราไมด์ Loperamide (เช่น อีโมเดี่ยม Imodium) อาจจำเป็นเมื่อคุณมีอาการท้องเสียในขณะที่นั่งรถนานๆ ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่ค่อยชอบใช้เท่าไหร่ (ผมขอทำเป็นลืมไปดีกว่า) อีกหนึ่งทางเลือก คือ หมั่นไปเข้าห้องน้ำ เรื่องนี้แหล่ะที่ผมต้องการที่จะไฮไลท์และใส่เครื่องหมายคำพูดรอบ ๆ คำว่า “ห้องน้ำ” เสียจริง
  • ก็เหมือนเวลาเดินทางไปหลาย ๆ แห่งนั่นแหล่ะครับ คุณอาจจะต้องพกยาทั่วไปไปด้วย เช่น ยาน้ำที่ช่วยควบคุมไม่ให้น้ำระเหยจากตัวมากไป ยาถ่าน(สำหรับแก้ท้องเสีย) และยาแก้ไข้แก้ปวดพาราเซตามอล ในกรณีที่เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยแบบทั่วไปในระหว่างการเดินทาง

ประกันภัย

เนื่องจากการประกันสุขภาพของผมคุ้มครองการเจ็บป่วยขั้นพื้นฐานในระหว่างการเดินทางเท่านั้น ผมจึงเลือกซื้อประกันเพิ่มอีกตัวจากบริษัทบูพา เหตุผลหลัก ๆ คือ แผนประกันสุขภาพของลูกจ้างชาวต่างชาติระดับผู้บริหารจะคุ้มครองเพียงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง แต่ที่ลาดักห์ คุณอาจจะต้องใช้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางการแพทย์ ที่สืบเนื่องจากการเจ็บไข้ได้ป่วยจาก Altitude Sickness อย่างรุนแรง– ซึ่งผมก็สรุปเอาเองว่านั่น ไม่นับเป็น อุบัติเหตุ – ดังนั้น การซื้อประกันเพิ่มเติมก็อาจจะเป็นเรื่องคุ้มค่าที่สำหรับการคลายความกังวล

เที่ยวบิน

ผมเห็นข้อได้เปรียบจากสายการบิน Jet Airways ที่บินจากกรุงเทพฯไปยังเลห์จาก Google Flights หากบินเส้นทางนี้ เราจะมีเวลาว่างก่อนต่อเครื่องที่เดลฮี ผมเลยจองโรงแรมใกล้ ๆ สนามบินที่โรงแรม Delhi Aerocity ถ้าย้อนกลับไปได้ ผมควรใช้บริการรับ-ส่งจากโรงแรม ซึ่งเป็นวิธีที่สบายกว่าการที่จะต้องคุยกับคนขับรถแท็กซี่ที่พุดภาษาอังกฤษไม่ได้เพื่อให้ไปส่งที่โรงแรมตอน ตี 2 อย่างไรก็ตาม การนอนหลับบนเตียงจริง ๆ ในโรงแรมในระหว่างการรอต่อเครื่องบินก็ถือเป็นตัวเลือกที่เลิศจริง ๆ

สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ในระหว่างการรอต่อเครื่องบิน คุณต้องไปรับกระเป๋าที่สนามบินกรุงเดลฮี แล้วก็ต้องมาเช็คอินใหม่อีกครั้ง (ถึงแม้ว่าหางตั๋วรับกระเป๋าจะระบุรวมจุดหมายปลายทางไว้แล้วก็ตาม) เวลาเดินทางขากลับ คุณยังต้องระบุกระเป๋าของคุณก่อนขึ้นเครื่องกลับไปเลห์ด้วยเช่นกัน – เว้นเสียแต่ว่า คุณอยากเห็นกระเป๋าของตัวเองตั้งเด่นอยู่บนรันเวย์ตอนที่เครื่องบินของคุณได้ทยานขึ้นฟ้าแล้ว

โรงแรมและเกสต์เฮาส์

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ผมเจอมักแนะนำให้ดูโรงแรมใน Trip Advisor แล้วก็เข้าไปต่อรองราคาค่าห้องกันเลย ส่วนมากจะได้ ส่วนลดประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ช่วยประหยัดได้มากกว่าจากการจองผ่าน Agoda, Booking.com หรือ TripAdvisor โดยตรง แต่ถ้าคุณต้องการจองล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ กลยุทธ์ที่ดีที่สุด คือ การส่งอีเมลหรือโทรติดต่อกับโรงแรมโดยตรง – ราคาอาจจะแพงขึ้นมาอีกหน่อย แต่ก็ยังเป็นราคาที่ดี ผมอยากแนะนำที่พักด้านล่างที่ผมได้ไปพักค้างคืนมา :

โรงแรมรีนาม (เลห์)

โรงแรมรีนามมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก มีความรู้ และเต็มใจช่วยเหลือ มีระบบเครื่องทำความร้อน (ในช่วงเวลากลางคืน) มีเครื่องทำความร้อน และทีวีระบบดาวเทียมในห้อง โรงแรมนี้มีบรรยากาศคล้ายอยู่กับบ้าน ราคาเพียง ฿1,841 ต่อคืน ต่อเตียงคู่ห้องรวม และยังมีอาหารเช้าและอาหารเย็นด้วย แม้ว่าโรงแรมนี้จะไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเท่าไหน่นัก แต่ราคาค่าแท็กซี่กับคุณภาพของที่พักก็สามารถชดเชยกันได้เกินคาดทีเดียว คุณสามารถติดต่อกับโรงแรมรีนามโดยตรงผ่าน [email protected] หรือโทร +91 9419977311

เส้าหลินเกสต์เฮาส์ (เลห์)

shaolin guest house family
ครอบครัวเจ้าของเส้าหลิน เกสต์เฮาส์ (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)

เส้าหลิน เกสต์เฮาส์เป็นที่พักแบบผสมระหว่างโฮมสเตย์กับโรงแรม ตั้งอยู่บนทำเลที่มีบรรยากาศที่ดีที่สุดสำหรับแขก มีอาหารบริการให้ตลอดทั้งวันด้วยราคาเพียงท่านละ ฿57.50 ต่อมื้อ ราคาต่อห้องแบบเตียงคู่อยู่ที่ ฿416.02 (ไม่รวมอาหารเช้า) และได้รับการจัดอันดับเป็นที่พักระดับห้าดาวจาก Trip Advisor ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่มีราคาที่ดีมาก อันที่จริงเส้าหลินก็ตั้งห่างจากโรงแรมรีนามไม่กี่ร้อยเมตร ก็ขึ้นอยุ่กับคุณว่าจะเลือกพักที่ไหนระหว่างราคาที่ดีกว่า หรือ ความสะดวกสบายที่มากกว่า คุณสามารถติดต่อเส้าหลินเกสต์เฮาส์โดยตรงที่ [email protected] หรือโทร + 91 9419218409

โรงแรมการมะ อินน์ (หมู่บ้านนูบรา)

ผมพักที่นี่ช่วงทีอยู่ที่ฮันเดอร์ และหมู่บ้านนูบรา โรงแรมนี้เป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นหนึ่งสำหรับงบที่ผมวางเอาไว้ และอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางที่เราต้องการจะไป อาหารก็ใช้ได้ แต่ว่าคุณอาจจะต้องข้ามข้าวกล่องมื้อเที่ยงไปเพื่อความปลอดภัย โรงแรมนี้มีทิวทัศน์รอบ ๆ ที่งดงาม แต่อย่าหวังที่จะใช้ Wifi ในห้องพักของคุณ ราคาที่พักเบ็ดเสร็จ คือ ฿1,716 ซึ่งรวมอาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ และอาหารเช้า

Advertisement

เชอร์ภูมิรีสอร์ต (ทะเลสาบแพงกอง)

โรงแรมนี้ไม่มีป้ายชื่อ และอยู่ที่เขตสแปงมิค ติดกับทะเลสาบแพงกอง เมื่อเทียบกับเต้นท์ที่หาได้ทั่วไปบริเวณนั้น โรงแรมนี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่ามาก ที่นี่มีน้ำร้อนบริการในถังไม้ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายอะไรในเขตบริเวณนี้ (เพราะส่วนใหญ่แถวนี้มีแต่เต้นท์) ตอนกลางคืนจะมีเครื่องปั่นไฟให้คุณชาร์จโทรศัพท์ และไฟฉาย คุณสามารถส่งอีเมลไปหาพวกเขาได้ที่ serbhumtao @gmail.com หรือโทร +91 9469718862 ราคาค่าที่พักรวมอาหารมื้อต่าง ๆ (ที่แสนอร่อย ) อยู่ที่ ฿1,404

อาหาร

ถ้าคุณชอบอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวน้ำ และขนมจีบประเภทต่าง ๆ คุณจะมีช่วงเวลาที่สุดยอดในลาดักห์ แต่ถ้าไม่ชอบ คุณอาจต้องเตรียมกล่องอาหารกลางวันไปกันเองนะ โรงแรมหลายแห่งมีอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ในราคากันเอง (ประมาณ ฿57) ต่อคนต่อมื้อ หรือไม่ก็จะคิดรวมไปในค่าห้องพักตั้งแต่แรกเลย ในเลห์ มีร้านอาหารดี ๆ ทั้งของท้องถิ่นและต่างชาติ ร้านอาหารที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ Gesmo’s และ Chopsticks

การเดินทาง

ladakh god bless

แท็กซี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทาง ซึ่งสมาคมรถแท็กซี่เป็นผู้กำหนดราคาค่าแท็กซี่ไว้ แต่บางครั้งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย คนขับรถแท็กซี่บางคนเป็นเจ้าของรถเอง แต่บางคันก็เป็นของโรงแรมและเกสต์เฮาส์ที่จ้างพนักงานมาขับ ค่ารถจะคิดตามระยะทาง ซึ่งสรุปแล้วจะตกประมาณ ฿348 ต่อชั่วโมง ผมขอแนะนำให้พวกคุณจัดแจงเรื่องคนขับรถตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง คุณสามารถขอให้พนักงานต้อนรับของโรงแรมติดต่อคนขับที่เฉพาะเจาะจงหรือให้จัดหาคนขับให้ตามราคาปกติ ตลอดช่วงเวลาที่เราพักกันอยู่ที่นั่น เราลองใช้คนขับหลาย ๆ คน ผมได้รวบรวมข้อมูลและการติดต่อคนขับที่เราพอใจมาให้ตามด้านล่าง

การเดินทางระยะใกล้

ในวันสุดท้ายของการเดินทางของพวกเรา เราได้พบกับคนขับรถที่สุดแสนจะเป็นมิตร และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม เขาขับรถแท็กซี่คันเล็ก ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวรอบ ๆ เขตเมืองและบริเวณใกล้ ๆ เขาชื่อ เกย์แลค คุณสามารถติดต่อเขาได้ที่ [email protected] หรือโทร + 91 9797457010

การเดินทางระยะไกล

คนขับอีกคนที่เป็นมิตร และช่วยอำนวยความสะดวก ชื่อ เซวัง เขาขับรถแท็กซี่ของตัวเอง ในช่วงหน้าร้อน เขาขับรถบริการนักท่องเที่ยว และปฏิบัติหน้าที่ทหารในช่วงฤดูหนาว ถึงเขาจะพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดีมากนัก แต่เขาก็สามารถชดเชยด้วยทักษะการขับรถ ที่ปลอดภัยมากกว่าคนขับคนอื่น ๆ เขาเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางไกล ๆ (มากกว่า 50 กม.) คุณสามารถโทร หรือ WhatApps ไปที่ +91 9622181571

รถทัวร์

ถ้าคุณเดินทางตามเส้นทางรถทัวร์ ราคาจะเริ่มตั้งแต่ ฿174 ไปถึง ฿348 ต่อที่นั่ง ข้อด้อยร้ายแรงสำหรับการเดินทางแบบนี้คือ คุณจะมีเวลาจำกัดที่จุดหมายปลายทาง และควบคุมเรื่องต่าง ๆได้น้อยกว่า เช่น การแวะจอดตามทาง เป็นต้น เนื่องจากเราเดินทางไปกับคนขับรถส่วนตัว ผมก็ไม่สามารถแนะนำการเดินทางโดยรถทัวร์มากนัก

เราเห็นป้ายโฆษณาเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยว และใช้แท็กซี่ร่วมกันมากมายรอบ ๆ เมือง คุณสามารถเข้าไปดูตามร้านต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบตัวเลือก ควรตรวจสอบให้แน่นอนว่า มีรถทัวร์ออกตามวันที่คุณวางแผนไว้จริง (เพราะบริษัทรถทัวร์อาจจะรอจนกว่าจะมีการจองเต็มคนรถเสียก่อน)

การต่อราคา

โดยทั่วไปแล้ว ราคาต่าง ๆ ในลาดักห์ มักจะเป็นราคาตายตัวที่ต่อรองไม่ได้ เช่น รถแท็กซี่มีการแจ้งราคาอย่างเป็นทางการ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว คุณมักได้ส่วนลด 10 % จากแท็กซี่ โรงแรม และการซื้ออื่น ๆ คุณอาจได้ส่วนลดมากถึง 20% ถ้าคุณเต็มใจที่จะต่อราคากันอีกสัก 10นาที โดยพูดถึงเรื่องราคาน้ำมัน ตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจโลก  การบอกราคาเกินกว่ากฎข้อบังคับไม่ค่อยมีบ่อยนัก และการต่อราคากับคนในท้องถิ่นสามารถทำได้ง่ายกว่าส่วนอื่นๆของประเทศ

กิจกรรมและแผนการท่องเที่ยว

หัวข้อข้างต้นน่าจะให้ภาพคร่าว ๆ ในการเดินทาง และปัญหาที่คุณอาจพบเจอ ถ้าคุณกังวลว่า จะจัดสรรเรื่องเวลาเที่ยวอย่างไร คุณสามารถส่งข้อความหรือข้อคิดเห็นมาหาผมได้ ในตอนนี้ผมกำลังรวมรวบแผนการท่องเที่ยวทั้งหมด ผมยินดีส่งข้อมูลให้แก่คุณเมื่อผมเขียนเสร็จแล้ว

leh mosque

Leave a Comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.