Karsten in Thailand

Things I Learned

Copyright © 2021 — Karsten in Thailand • Log in

เจาะลึกทุกรายละเอียดการเดินทางสู่ลาดักห์

June 29, 2016 by Karsten Aichholz Leave a Comment

หมู่บ้านนูบรา หนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดในลาดักห์ (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)
หมู่บ้านนูบรา หนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดในลาดักห์ (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้โพสต์บทความเรื่อง “When Your Lowest Point in Life is Still 3,048m Above Sea Level” (“เมื่อจุดต่ำสุดในชีวิตของคุณอยู่ที่ 3,048 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล”) ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางในแถบเทือกเขาหิมาลัยฝั่งประเทศอินเดีย ถ้าคุณยังไม่เคยอ่านบาทความนั้นมาก่อน ผมอยากให้ลองอ่านดูก่อนแล้วค่อยมาต่อที่บทความนี้นะครับ

สำหรับใครที่กำลังจะตามรอยเส้นทางที่เล่ามาหรือสำรวจรัฐนี้ด้วยตนเอง ผมหวังว่า ข้อมูลของผมต่อไปนี้จะเป็นแนวทางที่มีประโยชน์สำหรับการเดินทางสู่ภูมิภาคนี้ของประเทศอินเดีย

Contents

  • 1 ค่าใช้จ่ายสำหรับ 7 วัน
  • 2 การขอวีซ่า
  • 3 สุขภาพ
  • 4 การแต่งกายและอุปกรณ์
  • 5 ยาและเวชภัณฑ์
  • 6 ประกันภัย
  • 7 เที่ยวบิน
  • 8 โรงแรมและเกสต์เฮาส์
  • 9 อาหาร
  • 10 การเดินทาง
    • 10.1 การเดินทางระยะใกล้
    • 10.2 การเดินทางระยะไกล
    • 10.3 รถทัวร์
  • 11 การต่อราคา
  • 12 กิจกรรมและแผนการท่องเที่ยว

ค่าใช้จ่ายสำหรับ 7 วัน

เรามาเริ่มกันด้วยเรื่องเงินกันดีกว่า ถ้าจะเดินทางท่องเที่ยวที่ลาดักห์สักหนึ่งอาทิตย์จะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร รายละเอียดด้านล่างเป็นรายการค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ที่ผมใช้ไปทั้งหมดในการเดินทางครั้งนี้ (ดูแผนการเดินทางทั้งหมดได้ที่นี่) ผมเดินทางไปกับแฟนสองคน แต่ว่าค่าใช้จ่ายข้างล่างนี้เป็นรายการต่อคนนะครับ

รายการ จำนวนเงิน
ค่าเครื่องบิน ฿16,074
ค่าแท็กซี่ ฿5,909
ค่าโรงแรม ฿4,648
ค่าอาหาร ฿2,855
ค่าของฝาก ฿1,873
ค่าวีซ่า ฿1,673
ค่าประกันการเดินทาง ฿822
รวมทั้งสิ้น ฿33,854

ค่าเที่ยวบินนับตั้งแต่จากกรุงเทพฯ รวมไปถึงค่าห้องของโรงแรมในกรุงเดลฮี(เดลี) ที่อยู่ติดกับสนามบินที่เราไปนอนพักระหว่างรอต่อเครื่อง ราคาตั๋วเที่ยวบินขาเดียวจากกรุงเดลฮีไปเลห์นั้นมีราคา ฿2,753 ส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรงแรมซึ่งบางแห่งจะครอบคลุมถึงอาหารมื้อเช้าหรืออาหารมื้ออื่น ๆ เข้าไปด้วย ค่าแท็กซี่หมายถึงค่าเดินทางท่องเที่ยวสั้น ๆ เป็นระยะเวลา 2 วันไปยังทะเลสาบแพงกองและหุบเขานูบรา รวมถึงค่าเดินทางในละแวกใกล้ ๆเขตเลห์ แบบเช้าเย็นกลับ และค่าเดินแบบสั้นๆในแถวนั้นอีกหลายครั้ง ค่าอาหารมีราคาแตกต่างกันไปตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวน้ำชามละ ฿21 ไปจนถึงมื้ออาหารที่สนามบินราคา ฿418

การขอวีซ่า

แน่นอนการเดินทางของผมสู่ลาดักห์เริ่มต้นที่ระดับน้ำทะเล เมื่อผมตรวจสอบรายละเอียดการขอวีซ่าเข้าประเทศอินเดีย ผมพิมพ์เอกสารที่ต้องใช้ยื่นขอวีซ่าออกมาเป็นตั้ง และนัดวันที่จะไปสถานทูตอินเดียจนเสร็จเรียบร้อย ผมถึงได้รู้ว่าประเทศนี้มีการออกวีซ่าท่องเที่ยวแบบอิเล็คโทรนิคส์ โดยคิดค่าธรรมเนียมเพียง ฿1,673 และ อีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อมา ผมก็ได้รับการยืนยันผ่านทางอีเมลล์ว่า วีซ่า “eTV” สำหรับเข้าประเทศอินเดียของผมได้รับการอนุมัติแล้ว (ราคาค่าวีซ่าที่ระบุไว้ในตารางนั้นได้รวมถึงค่าธรรมเนียมตัดบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว) ผมขอแนะนำให้สมัครวีซ่าโดยวิธีนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถใช้กระบวนการนี้ได้

สุขภาพ

โรคจากการแพ้ความสูง (altitude sickness) ที่อาจเกิดขึ้นได้ที่ระดับความสูงเกิน 2500 เมตร นับเป็นเรื่องน่ากังวลในลาดักห์ อาการที่พบบ่อยๆของโรคนี้เช่นความอ่อนล้า ปวดศีรษะ และเหนื่อยง่าย ผมเองเคยมีอาการแบบนี้เมื่อครั้งไปปีนเขาในประเทศอูกันดา ผมคิดว่าอาการหลายๆอย่างเหมือนเวลาเราเมาค้าง อย่างไรก็ตาม โรคนี้อาจจะร้ายแรงได้มากกว่านั้นมากและบางครั้งอาจจะถึงแก่ชีวิตได้ทีเดียว

การเดินทางมาถึงโดยเครื่องบิน หมายถึง ช่วงเวลาที่คุณได้หย่อนเท้าลงเหยียบพื้นดิน ซึ่งก็ถือว่า คุณได้อยู่ที่ระดับ 3,500 เมตรแล้ว หลายท่านอาจจะแนะนำให้คุณพักผ่อนก่อนในวันแรก แต่ว่าพวกผมได้กินยาแก้แพ้ระดับความสูง (Diamox) เตรียมมาก่อน ทำให้เรากล้าพอที่จะลดเวลาพักลงจนเหลือแค่สองสามชั่วโมง ก่อนที่จะนั่งแท็กซี่ตระเวนไปเที่ยวรอบ ๆ เมือง สำหรับการเที่ยวข้างนอกตัวเมือง คุณสมควรที่จะใช้เวลาปรับตัวอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อน เพราะว่าเราต้องเดินทางข้ามภูเขา ซึ่งบางแห่งนั้นสูงถึง 5 300เมตร การปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศก่อนเดินทางเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก

การเดินทางของคุณจะยากลำบากมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องเดินทางจากมานาลี่ไปเลห์โดยรถยนต์ นักเดินทางที่ต้องการไปให้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะไปได้ บางทีก็จบลงด้วยการค้างคืนที่ซาร์ชู ( 4, 290 เมตร) แทน เนื่องจากนักเดินทางมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดโรคความกลัวที่สูงโดยฉับพลัน จึงมีภาษาพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า “อ้วกแบบฮิลตัน” ซึ่งก็ไม่เชิงเป็นคำพูดที่พวกพนักงานลอกมาจากหนังสือท่องเที่ยว the Lonely Planet กันหรอกครับ วิธีที่ดีกว่านั้นในการปรับตัวให้เข้ากับระดับความสูงนั้นอยู่ที่จุดพักในตอนต้นของการเดินทางซึ่งสามารถดูที่ได้ที่เว็บไซด์ Devils on Wheels

การแต่งกายและอุปกรณ์

อุณหภูมิที่ลาดักห์เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน อย่าแปลกใจถ้าคุณเจออุณหภูมิสูงแบบฤดูร้อนในไม่กี่ชั่วโมง (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)
อุณหภูมิที่ลาดักห์เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน อย่าแปลกใจถ้าคุณเจออุณหภูมิสูงแบบฤดูร้อนในไม่กี่ชั่วโมง (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)

ลาดักห์เป็นเมืองลมโกรกที่ตั้งอยู่ค่อนข้างสูง ดังนั้น เราควรตระเตรียมข้าวของใส่ในเป้สะพายหลังให้เหมาะสม นอกจากของจำเป็นตามปกติแล้ว คุณสมควรพกสิ่งของเหล่านี้ไปด้วย :

  • ชุดนอนผ้าหนา : เกสต์เฮาส์และโรงแรมส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะพวกที่คิดราคาน้อยกว่า ฿1,742 ต่อคืน) ไม่มีเครื่องทำความร้อน การรับมือกับอากาศที่หนาวเย็นในวลากลางคืนเบื้องต้น คือ สวมใส่เสื้อผ้าทุกชิ้นที่มี และอาจต้องเพิ่มผ้าห่มอีกสักสองสามผืน
  • เสื้อผ้าหลายชิ้น : สืบเนื่องจากระดับความสูง อุณหภูมิอาจเปลี่ยนไปมา สิ่งที่ผมชอบทำมากที่สุดในการรับมือ คือ การสวมใส่เสื้อผ้าทับเข้าไปอีกสักสองสามตัว ซึ่งสามารถถอดออกได้ง่ายเมื่ออากาศเริ่มร้อนขึ้นหลังจากที่พระอาทิตย์ผ่านพ้นขอบฟ้าขึ้นมาในช่วงสาย ๆ
  • ไฟฉาย : ตามท้องถนนมีแสงไฟน้อยมาก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเขตเมืองหลวงก็ตาม เขตก่อสร้างและท่อระบายน้ำที่เปิดทิ้งไว้อาจทำให้การเดินเที่ยวในยามค่ำคืนค่อนข้างบุกบั่นกว่าที่คุณจะปรารถนา ไฟฉายสามารถช่วยคุณได้อย่างมาก

ยาและเวชภัณฑ์

ผมขอแนะนำให้คุณแวะที่ร้านขายยาเพื่อซื้อยาบางชนิด ก่อนออกเดินทางไปที่นั่น

  • ยาระงับความกลัวความสูง เช่น ยา Acetazolamide (เช่น เดียอาม็อกซ์ Diamox) เพื่อบรรเทาอาการบางอย่างเช่นปวดศีรษะ
  • ยาระงับอาการเมาคลื่น ยาชนิดนี้ช่วยได้อย่างมากโดยเฉพาะเวลาที่ต้องเดินทางขึ้น ๆ ลง ๆ ตามเส้นทางคดเคี้ยวที่เชื่อมภูเขาแต่ละลูก หลายๆครั้งคุณจะต้องนั่งรถเป็นระยะเวลา 3 – 7 ชั่วโมงในการเดินทางไปที่ต่างๆ และยิ่งเดินทางขึ้นสูงไปมากเท่าไร เส้นทางก็จะยิ่งเป็นหลุมเป็นบ่อมากขึ้นเท่านั้น
  • ยาแก้อาการคลื่นไส้ ถ้าจะให้ดีก็ควรติดไปด้วย บางครั้งคุณอาจต้องใช้ร่วมกับยาแก้เมาคลื่น ปลอดภัยไว้ก่อนที่จะต้องมานั้งเสียใจภายหลัง
  • ยาโลเปอราไมด์ Loperamide (เช่น อีโมเดี่ยม Imodium) อาจจำเป็นเมื่อคุณมีอาการท้องเสียในขณะที่นั่งรถนานๆ ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่ค่อยชอบใช้เท่าไหร่ (ผมขอทำเป็นลืมไปดีกว่า) อีกหนึ่งทางเลือก คือ หมั่นไปเข้าห้องน้ำ เรื่องนี้แหล่ะที่ผมต้องการที่จะไฮไลท์และใส่เครื่องหมายคำพูดรอบ ๆ คำว่า “ห้องน้ำ” เสียจริง
  • ก็เหมือนเวลาเดินทางไปหลาย ๆ แห่งนั่นแหล่ะครับ คุณอาจจะต้องพกยาทั่วไปไปด้วย เช่น ยาน้ำที่ช่วยควบคุมไม่ให้น้ำระเหยจากตัวมากไป ยาถ่าน(สำหรับแก้ท้องเสีย) และยาแก้ไข้แก้ปวดพาราเซตามอล ในกรณีที่เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยแบบทั่วไปในระหว่างการเดินทาง

ประกันภัย

เนื่องจากการประกันสุขภาพของผมคุ้มครองการเจ็บป่วยขั้นพื้นฐานในระหว่างการเดินทางเท่านั้น ผมจึงเลือกซื้อประกันเพิ่มอีกตัวจากบริษัทบูพา เหตุผลหลัก ๆ คือ แผนประกันสุขภาพของลูกจ้างชาวต่างชาติระดับผู้บริหารจะคุ้มครองเพียงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง แต่ที่ลาดักห์ คุณอาจจะต้องใช้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางการแพทย์ ที่สืบเนื่องจากการเจ็บไข้ได้ป่วยจาก Altitude Sickness อย่างรุนแรง– ซึ่งผมก็สรุปเอาเองว่านั่น ไม่นับเป็น อุบัติเหตุ – ดังนั้น การซื้อประกันเพิ่มเติมก็อาจจะเป็นเรื่องคุ้มค่าที่สำหรับการคลายความกังวล

เที่ยวบิน

ผมเห็นข้อได้เปรียบจากสายการบิน Jet Airways ที่บินจากกรุงเทพฯไปยังเลห์จาก Google Flights หากบินเส้นทางนี้ เราจะมีเวลาว่างก่อนต่อเครื่องที่เดลฮี ผมเลยจองโรงแรมใกล้ ๆ สนามบินที่โรงแรม Delhi Aerocity ถ้าย้อนกลับไปได้ ผมควรใช้บริการรับ-ส่งจากโรงแรม ซึ่งเป็นวิธีที่สบายกว่าการที่จะต้องคุยกับคนขับรถแท็กซี่ที่พุดภาษาอังกฤษไม่ได้เพื่อให้ไปส่งที่โรงแรมตอน ตี 2 อย่างไรก็ตาม การนอนหลับบนเตียงจริง ๆ ในโรงแรมในระหว่างการรอต่อเครื่องบินก็ถือเป็นตัวเลือกที่เลิศจริง ๆ

สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ในระหว่างการรอต่อเครื่องบิน คุณต้องไปรับกระเป๋าที่สนามบินกรุงเดลฮี แล้วก็ต้องมาเช็คอินใหม่อีกครั้ง (ถึงแม้ว่าหางตั๋วรับกระเป๋าจะระบุรวมจุดหมายปลายทางไว้แล้วก็ตาม) เวลาเดินทางขากลับ คุณยังต้องระบุกระเป๋าของคุณก่อนขึ้นเครื่องกลับไปเลห์ด้วยเช่นกัน – เว้นเสียแต่ว่า คุณอยากเห็นกระเป๋าของตัวเองตั้งเด่นอยู่บนรันเวย์ตอนที่เครื่องบินของคุณได้ทยานขึ้นฟ้าแล้ว

โรงแรมและเกสต์เฮาส์

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ผมเจอมักแนะนำให้ดูโรงแรมใน Trip Advisor แล้วก็เข้าไปต่อรองราคาค่าห้องกันเลย ส่วนมากจะได้ ส่วนลดประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ช่วยประหยัดได้มากกว่าจากการจองผ่าน Agoda, Booking.com หรือ TripAdvisor โดยตรง แต่ถ้าคุณต้องการจองล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ กลยุทธ์ที่ดีที่สุด คือ การส่งอีเมลหรือโทรติดต่อกับโรงแรมโดยตรง – ราคาอาจจะแพงขึ้นมาอีกหน่อย แต่ก็ยังเป็นราคาที่ดี ผมอยากแนะนำที่พักด้านล่างที่ผมได้ไปพักค้างคืนมา :

โรงแรมรีนาม (เลห์)

โรงแรมรีนามมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก มีความรู้ และเต็มใจช่วยเหลือ มีระบบเครื่องทำความร้อน (ในช่วงเวลากลางคืน) มีเครื่องทำความร้อน และทีวีระบบดาวเทียมในห้อง โรงแรมนี้มีบรรยากาศคล้ายอยู่กับบ้าน ราคาเพียง ฿1,841 ต่อคืน ต่อเตียงคู่ห้องรวม และยังมีอาหารเช้าและอาหารเย็นด้วย แม้ว่าโรงแรมนี้จะไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเท่าไหน่นัก แต่ราคาค่าแท็กซี่กับคุณภาพของที่พักก็สามารถชดเชยกันได้เกินคาดทีเดียว คุณสามารถติดต่อกับโรงแรมรีนามโดยตรงผ่าน [email protected] หรือโทร +91 9419977311

เส้าหลินเกสต์เฮาส์ (เลห์)

ครอบครัวเจ้าของเส้าหลิน เกสต์เฮาส์ (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)
ครอบครัวเจ้าของเส้าหลิน เกสต์เฮาส์ (เครดิตภาพ: Pudkrong Kaewpichit)

เส้าหลิน เกสต์เฮาส์เป็นที่พักแบบผสมระหว่างโฮมสเตย์กับโรงแรม ตั้งอยู่บนทำเลที่มีบรรยากาศที่ดีที่สุดสำหรับแขก มีอาหารบริการให้ตลอดทั้งวันด้วยราคาเพียงท่านละ ฿57.50 ต่อมื้อ ราคาต่อห้องแบบเตียงคู่อยู่ที่ ฿416.02 (ไม่รวมอาหารเช้า) และได้รับการจัดอันดับเป็นที่พักระดับห้าดาวจาก Trip Advisor ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่มีราคาที่ดีมาก อันที่จริงเส้าหลินก็ตั้งห่างจากโรงแรมรีนามไม่กี่ร้อยเมตร ก็ขึ้นอยุ่กับคุณว่าจะเลือกพักที่ไหนระหว่างราคาที่ดีกว่า หรือ ความสะดวกสบายที่มากกว่า คุณสามารถติดต่อเส้าหลินเกสต์เฮาส์โดยตรงที่ [email protected] หรือโทร + 91 9419218409

โรงแรมการมะ อินน์ (หมู่บ้านนูบรา)

ผมพักที่นี่ช่วงทีอยู่ที่ฮันเดอร์ และหมู่บ้านนูบรา โรงแรมนี้เป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นหนึ่งสำหรับงบที่ผมวางเอาไว้ และอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางที่เราต้องการจะไป อาหารก็ใช้ได้ แต่ว่าคุณอาจจะต้องข้ามข้าวกล่องมื้อเที่ยงไปเพื่อความปลอดภัย โรงแรมนี้มีทิวทัศน์รอบ ๆ ที่งดงาม แต่อย่าหวังที่จะใช้ Wifi ในห้องพักของคุณ ราคาที่พักเบ็ดเสร็จ คือ ฿1,716 ซึ่งรวมอาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ และอาหารเช้า

เชอร์ภูมิรีสอร์ต (ทะเลสาบแพงกอง)

โรงแรมนี้ไม่มีป้ายชื่อ และอยู่ที่เขตสแปงมิค ติดกับทะเลสาบแพงกอง เมื่อเทียบกับเต้นท์ที่หาได้ทั่วไปบริเวณนั้น โรงแรมนี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่ามาก ที่นี่มีน้ำร้อนบริการในถังไม้ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายอะไรในเขตบริเวณนี้ (เพราะส่วนใหญ่แถวนี้มีแต่เต้นท์) ตอนกลางคืนจะมีเครื่องปั่นไฟให้คุณชาร์จโทรศัพท์ และไฟฉาย คุณสามารถส่งอีเมลไปหาพวกเขาได้ที่ serbhumtao @gmail.com หรือโทร +91 9469718862 ราคาค่าที่พักรวมอาหารมื้อต่าง ๆ (ที่แสนอร่อย ) อยู่ที่ ฿1,404

อาหาร

ถ้าคุณชอบอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวน้ำ และขนมจีบประเภทต่าง ๆ คุณจะมีช่วงเวลาที่สุดยอดในลาดักห์ แต่ถ้าไม่ชอบ คุณอาจต้องเตรียมกล่องอาหารกลางวันไปกันเองนะ โรงแรมหลายแห่งมีอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ในราคากันเอง (ประมาณ ฿57) ต่อคนต่อมื้อ หรือไม่ก็จะคิดรวมไปในค่าห้องพักตั้งแต่แรกเลย ในเลห์ มีร้านอาหารดี ๆ ทั้งของท้องถิ่นและต่างชาติ ร้านอาหารที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ Gesmo’s และ Chopsticks

การเดินทาง

ladakh-god-bless_hd-1877x1080

แท็กซี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทาง ซึ่งสมาคมรถแท็กซี่เป็นผู้กำหนดราคาค่าแท็กซี่ไว้ แต่บางครั้งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย คนขับรถแท็กซี่บางคนเป็นเจ้าของรถเอง แต่บางคันก็เป็นของโรงแรมและเกสต์เฮาส์ที่จ้างพนักงานมาขับ ค่ารถจะคิดตามระยะทาง ซึ่งสรุปแล้วจะตกประมาณ ฿348 ต่อชั่วโมง ผมขอแนะนำให้พวกคุณจัดแจงเรื่องคนขับรถตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง คุณสามารถขอให้พนักงานต้อนรับของโรงแรมติดต่อคนขับที่เฉพาะเจาะจงหรือให้จัดหาคนขับให้ตามราคาปกติ ตลอดช่วงเวลาที่เราพักกันอยู่ที่นั่น เราลองใช้คนขับหลาย ๆ คน ผมได้รวบรวมข้อมูลและการติดต่อคนขับที่เราพอใจมาให้ตามด้านล่าง

การเดินทางระยะใกล้

ในวันสุดท้ายของการเดินทางของพวกเรา เราได้พบกับคนขับรถที่สุดแสนจะเป็นมิตร และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม เขาขับรถแท็กซี่คันเล็ก ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวรอบ ๆ เขตเมืองและบริเวณใกล้ ๆ เขาชื่อ เกย์แลค คุณสามารถติดต่อเขาได้ที่ [email protected] หรือโทร + 91 9797457010

การเดินทางระยะไกล

คนขับอีกคนที่เป็นมิตร และช่วยอำนวยความสะดวก ชื่อ เซวัง เขาขับรถแท็กซี่ของตัวเอง ในช่วงหน้าร้อน เขาขับรถบริการนักท่องเที่ยว และปฏิบัติหน้าที่ทหารในช่วงฤดูหนาว ถึงเขาจะพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดีมากนัก แต่เขาก็สามารถชดเชยด้วยทักษะการขับรถ ที่ปลอดภัยมากกว่าคนขับคนอื่น ๆ เขาเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางไกล ๆ (มากกว่า 50 กม.) คุณสามารถโทร หรือ WhatApps ไปที่ +91 9622181571

รถทัวร์

ถ้าคุณเดินทางตามเส้นทางรถทัวร์ ราคาจะเริ่มตั้งแต่ ฿174 ไปถึง ฿348 ต่อที่นั่ง ข้อด้อยร้ายแรงสำหรับการเดินทางแบบนี้คือ คุณจะมีเวลาจำกัดที่จุดหมายปลายทาง และควบคุมเรื่องต่าง ๆได้น้อยกว่า เช่น การแวะจอดตามทาง เป็นต้น เนื่องจากเราเดินทางไปกับคนขับรถส่วนตัว ผมก็ไม่สามารถแนะนำการเดินทางโดยรถทัวร์มากนัก

เราเห็นป้ายโฆษณาเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยว และใช้แท็กซี่ร่วมกันมากมายรอบ ๆ เมือง คุณสามารถเข้าไปดูตามร้านต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบตัวเลือก ควรตรวจสอบให้แน่นอนว่า มีรถทัวร์ออกตามวันที่คุณวางแผนไว้จริง (เพราะบริษัทรถทัวร์อาจจะรอจนกว่าจะมีการจองเต็มคนรถเสียก่อน)

การต่อราคา

โดยทั่วไปแล้ว ราคาต่าง ๆ ในลาดักห์ มักจะเป็นราคาตายตัวที่ต่อรองไม่ได้ เช่น รถแท็กซี่มีการแจ้งราคาอย่างเป็นทางการ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว คุณมักได้ส่วนลด 10 % จากแท็กซี่ โรงแรม และการซื้ออื่น ๆ คุณอาจได้ส่วนลดมากถึง 20% ถ้าคุณเต็มใจที่จะต่อราคากันอีกสัก 10นาที โดยพูดถึงเรื่องราคาน้ำมัน ตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจโลก  การบอกราคาเกินกว่ากฎข้อบังคับไม่ค่อยมีบ่อยนัก และการต่อราคากับคนในท้องถิ่นสามารถทำได้ง่ายกว่าส่วนอื่นๆของประเทศ

กิจกรรมและแผนการท่องเที่ยว

หัวข้อข้างต้นน่าจะให้ภาพคร่าว ๆ ในการเดินทาง และปัญหาที่คุณอาจพบเจอ ถ้าคุณกังวลว่า จะจัดสรรเรื่องเวลาเที่ยวอย่างไร คุณสามารถส่งข้อความหรือข้อคิดเห็นมาหาผมได้ ในตอนนี้ผมกำลังรวมรวบแผนการท่องเที่ยวทั้งหมด ผมยินดีส่งข้อมูลให้แก่คุณเมื่อผมเขียนเสร็จแล้ว

leh-mosque_hd-617x1080

Karsten Aichholz

Filed Under: ท่องเที่ยว Tagged With: ท่องเที่ยว, ลาดัคห์, เดินทาง, เลห์

Email Subscribe

Receive notifications of new posts by email.

Karsten

  • About Me
  • Contact Me

Topics I Cover

  • ท่องเที่ยว
  • สุขภาพ
  • เงิน

My Most Popular Posts

  • การส่งเงินไปประเทศไทย